บันทึกจากแดนเหนือ
ISBN : 9786160629831
เขียน : audnun
ภาพ : icejiinhalamy
สำนักพิมพ์ : everY (เอเวอร์วาย)
อื่นๆ : 344 หน้า
เรื่องราวของแดนเหนือ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศึกษาศาสตร์ที่เก็บกระเป๋าขึ้นดอยไปเป็นครูอาสาในช่วงปิดเทอมพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองคน หากแต่การกลับมาเป็นครูอาสาบนดอยเขตตะวันในครั้งนี้กลับได้พบกับแพทย์ทหารประจำค่ายทหารที่อยู่ห่างออกไปจากโรงเรียนไม่กี่ร้อยเมตร การเจอกันครั้งแรกนั้นไม่ได้สวยงามนักด้วยเพราะหมอพลนั้นเข้าใจผิดว่าคนที่เดินทำท่าทางลับๆ ล่อๆ อยู่บริเวณไม่ไกลจากเขตชายแดนนั้นเป็นคนที่ลักลอบส่งยาเสพติดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หากแต่ความเป็นจริงคนคนนั้นคือแดนเหนือที่เดินมาถ่ายรูป
หลังซักถามกันจนพอรู้เรื่องฝ่ายแพทย์ทหารหนุ่มก็ขอดูรูปในกล้อง หากแต่กล้องตัวนั้นของแดนเหนือเป็นกล้องฟิล์มซึ่งดูรูปในขณะนั้นไม่ได้ เรื่องราวการเจอกันครั้งแรกเลยจบลงด้วยการที่หมอพลทำกล้องของแดนเหนือพังเพราะพยายามจะเปิดดูรูปแถมทั้งคู่ก็ยังเขม่นกันอยู่ไม่น้อยจากเหตุการณ์ครั้งนี้
สุดท้ายคนสองคนที่เจอหน้ากันแทบทุกวันเลยจบด้วยการยอมลงให้กันทั้งสองฝ่าย หากแต่หมอพลนั้นได้กลายเป็นคนหน้าตายแถมยังขี้เก๊กอันดับหนึ่งสำหรับแดนเหนือไปเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายแดนเหนือเองก็กลายเป็นเด็กแสบสำหรับอีกคนเช่นกัน หากแต่เป็นเด็กแสบไปได้ไม่เท่าไหร่แพทย์ทหารหนุ่มก็ค่อยๆ เปลี่ยนความคิดนั้นไปช้าๆ เมื่อได้รู้จักแดนเหนือมากขึ้น ได้รู้ถึงมุมมองและทัศนคติของคุณครูอาสามากขึ้นกว่าเดิม ความรู้สึกนั้นฝ่ายแพทย์ทหารหนุ่มเองก็ไม่แน่ใจนักว่ามันเริ่มเตลิดไปไกลตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่ได้เห็นแดนเหนือสอนหนังสือเด็กๆ ตอนได้เห็นแดนเหนือพูด ตอนพาเด็กๆ ไปแข่งเล่านิทาน หรือในตอนที่แดนเหนือยิ้มให้
ละอองความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะชัดเจนนักหากแต่อบอวลมาพักใหญ่รวมตัวกันเป็นรูปร่างในวันนั้น วันที่แดนเหนือประสบอุบัติเหตุ ฝ่ายหมอพลเลือกที่จะพูดความรู้สึกในใจออกไปหากแต่สิ่งที่แดนเหนือตอบกลับมานั้นคือความเงียบ
สุดท้ายก็จบด้วยการที่คนทั้งคู่ไม่คุยกันไปหลายวัน อีกฝ่ายหนึ่งคิดหนักที่พึ่งรู้ตัวว่าตัวเองอาจจะทำให้แดนเหนืออึดอัดที่พูดออกไป หากแต่แดนเหนือกลับไม่ได้อึดอัดใจจากการได้ยินคำสารภาพอย่างตรงไปตรงมานั้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าการกระทำไหนที่ควรทำหลังจากนั้นเมื่อแดนเหนือไม่รู้เลยว่าตนรู้สึกอย่างไรกับอีกฝ่าย ท้ายที่สุดแล้วเมื่อทบทวนถึงทุกเรื่องราวที่ผ่านมา คำตอบนั้นชัดเจนอย่างที่แดนเหนือไม่สามารถปฏิเสธได้เมื่อตอนนี้แดนเหนือนั้นต้องยอมรับว่าตนนั้นรู้สึกกับอีกฝ่ายไม่ต่างกัน
ทุกความเคลือบแคลงใจและความกังวลเหล่านั้นคลี่คลายลงเมื่อทั้งคู่ได้เปิดใจคุยกัน แต่กระนั้นระยะเวลาที่ดำเนินไป ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยังไม่ได้มีชื่อเรียกที่ชัดเจนนัก ฝ่ายหมอพลเองไม่ได้รีบเร่งเอาคำตอบใดๆ เพราะอยากให้เวลาแดนเหนือได้ตัดสินใจได้เท่าที่ต้องการ
มันเป็นวันนั้นที่พายุพัดถล่มดอยเขตตะวันจนหลากหลายสิ่งพังทลายไปเกือบหมด เป็นวันที่ทุกๆ ชีวิตบนดอยเขตตะวันต่างสูญเสีย ทั้งผู้คนและบ้านเรือน แต่การเยียวยาก็มีมาหลังจากนั้นเมื่อมีวิศวะบำเพ็ญจากมหา’ลัยเดียวกันกับแดนเหนือขึ้นมาอาสาซ่อมบ้านเรือนและโรงเรียนที่พังจากพายุ หากแต่สิ่งที่ทำให้แดนเหนือคิดหนักนั่นคือ กัน เพื่อนเก่าของแดนเหนือที่เป็นหนึ่งในทีมอาสาที่ขึ้นมา หากแต่เรื่องราวของกันนั้นคือคนที่คิดกับแดนเหนือมากกว่าเพื่อน เรื่องราวของทั้งคู่ไม่ได้จบแบบสวยงามนัก การกลับมาเจอกันอีกครั้งของคนทั้งคู่ แดนเหนือนั้นกังวลใจเพียงเล็กน้อย หากแต่คนที่ดูท่าว่าจะกังวลใจกว่าใครนั้นคงหนีไม่พ้นฝ่ายแพทย์ทหารหนุ่มที่มักจะหัวร้อยอยู่ทุกครั้งเวลาเห็นเด็กหนุ่มคณะวิศวกรรมศาสตร์คนนั้นมาวอแวกับแดนเหนือ แต่กระนั้นแดนเหนือเองก็ไม่เคยทำให้รู้สึกไม่สบายใจในเรื่องนี้ และการกลับมาเจอกันอีกครั้งของแดนเหนือและกันนั้นจบลงไปด้วยดี มีกันเพียงคำขอโทษที่มีให้แดนเหนือจากเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาที่ทั้งคู่ยังคงเด็กกันกว่านี้
มันเป็นคืนนั้นที่ทีมอาสาจัดงานลอยกระทงให้เด็กๆ เป็นคืนที่แดนเหนือเอ่ยปากขอเป็นแฟนหมอพลออกไป ฝ่ายที่ถูกขอนั้นรับข้อตกลงแบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
ทีมอาสากลับลงดอยในเช้าของอีกวันและแดนเหนือกับเพื่อนๆ ก็กลับลงดอยหลังจากนั้นไล่หลังไม่กี่อาทิตย์โดยมีแพทย์ทหารหนุ่มนั้นอาสามาส่งถึงที่ห้องแต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปกลับเจอพ่อกับแม่แดนเหนืออยู่ซะอย่างนั้น สุดท้ายความคิดที่ตั้งใจจะมานอนกับแดนเหนือเลยถูกพับเก็บแถมยังถูกสัมภาษณ์โดยพ่อของแดนเหนือไปอีกหลายต่อหลายเรื่อง
ความรักระยะไกลของทั้งคู่ยังดำเนินไปแบบนั้น หมอพลยังเป็นหมอที่ทำงานหนักเหมือนเดิม แดนเหนือก็ยังเป็นนักศึกษาที่เรียนหนักเหมือนเดิม มีบ้างที่ทั้งคู่ได้เจอกันในตอนที่ฝ่ายแพทย์ทหารหนุ่มเว้นว่างจากการทำงานและเทศกาลปีใหม่คือช่วงจังหวะเวลานั้น
ช่วงเวลาก่อนปีใหม่ของทั้งคู่ดำเนินไปด้วยความเรียบง่ายคล้ายกับว่าทั้งคู่กำลังทดแทนช่วงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ หากแต่คืนวันที่ 29 ธันวาคม งานที่มีเข้ามาอย่างกะทันหันทำให้หมอพลนั้นต้องไปทำงานในเช้ารุ่งขึ้นอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
การมาทำงานครั้งนี้นั้นแตกต่างจากทุกๆ ครั้งอย่างสิ้นเชิงด้วยเพราะต้องมารักษาชาวเขาที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากพอสมควร ห่างไกลกว่าดอยเขตตะวัน หากแต่นั่นดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อเรื่องใหญ่นั้นคืองานที่หมอพลต้องมาทำคราวนี้นั้นเป็นการเข้ามารักษาโรคระบาดที่อันตรายมากๆ เป็นงานที่ต้องลากยาวหนึ่งเดือนหรืออาจจะมากกว่านั้น แถมยังเป็นระยะเวลาที่ขาดการติดต่อกับแดนเหนือไปอย่างสิ้นเชิงด้วยเพราะบนภูเขาไม่มีสัญญาณที่จะติดต่อกันได้
หากแต่เรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดก็เกิดขึ้นในระยะเวลาเกือบเดือนหลังจากนั้น เมื่อแพทย์ทหารหนุ่มที่ไปรักษาชาวเขาเกิดติดเชื้อจากชาวบ้านทำให้เจ้าตัวถูกส่งตัวกลับมารักษายังโรงพยาบาลในเช้าวันถัดมา หากแต่ความโชคร้ายมันไม่หมดเพียงเท่านั้นเมื่อวัคซีนที่ใช้รักษาเชื้อไวรัสชนิดนี้ไม่มีเหลือแล้วในประเทศไทย
มันเป็นวินาทีนั้นที่แดนเหนือคล้ายกับแตกสลายลงไปตอนรู้ข่าว หากแต่ความเศร้าที่เจอมันยังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วันที่ร่างสูงยังหลับใหลอยู่แบบนั้น เนิ่นนานหลายวันกว่าที่วัคซีนจากต่างประเทศจะถูกส่งมา หากแต่เบื้องต้นกลับรักษาไม่ได้ผลดีนัก ทว่าสุดท้ายในความโชคร้ายก็มีความโชคดีอยู่บ้างเมื่อหมอพลฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ใช้เวลารักษาตัวหลังจากนั้นไปร่วมเดือนกว่าจะได้ออกจากโรงพยาบาล
เรื่องราวของทั้งคู่นั้นยังคงดำเนินต่อไปพร้อมกับวันเวลาที่เคลื่อนผ่านไปข้างหน้า สองปีสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัยของแดนเหนือนั้นถูกทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างหนัก มีเพียงฝ่ายแพทย์ทหารหนุ่มที่คอยแวะเวียนมาหาแดนเหนือที่ตัวเมืองเชียงใหม่ทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ส่วนแดนเหนือนั้นมีเพียงช่วงปิดภาคเรียนที่จะได้กลับไปหาเด็กๆ และหมอพลที่ดอยเขตตะวัน เมื่อสำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา สองปีที่ผ่านพ้นบนดอยเขตตะวันมีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไป เด็กๆ ได้ไปเรียนโรงเรียนในระบบ ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หากแต่สิ่งที่ยังมั่นคงไม่เปลี่ยนไปนั่นคือความรักที่แดนเหนือและหมอพลต่างมีให้กัน ทุกๆ ความรู้สึกมันยังเติบโตขึ้นอยู่เสมอ ยังมั่นคงเหมือนดอยเขตตะวันที่ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่หัวใจของทั้งคู่